โรคต้อลม ( Pinguecula ) อาการ สาเหตุ และการรักษา
โรคต้อลม ( Pinguecula )
อาการ สาเหตุ และการรักษาโรคต้อลม
โรคต้อลม ( Pinguecula ) คือ โรคที่เกิดกับดวงตาชนิดหนึ่ง ซึ่งพบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยสาเหตุมาจากพฤติกรรมของผู้ป่วย ร่วมกับสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมในปัจจุบัน เช่น ฝุ่น แสงแดด ควัน ลมแรง อาการที่พบเด่นชัด คือ จะมีก้อนเนื้อนูนเหลือง บริเวณตาขาว แสบระคายเคืองตารุนแรง ระดับความรุนแรงมีมากแค่ไหน รักษาหายไหม สาเหตุการเกิดโรคคืออะไร อาการที่พบเป็นอย่างไร การรักษาทำได้อย่างไร ป้องการเกิดโรคทำได้ไหม เรามีคำตอบค่ะ
โรคต้อลม ( Pinguecula ) คือ โรคชนิดหนึ่งที่เกิดกับดวงตาซึ่งถือว่าเป็นอวัยวะที่สำคัญมาก เมื่อประสบกับโรคต้อลมจะส่งผลต่อการมองเห็นการดำรงชีวิตของผู้ที่เป็นโรคเป็นอย่างมาก ส่วมมากจะพบในผู้สูงอายุเนื่องจากเกิดการเสื่อมของเยื่อบุดวงตาได้ง่ายกว่าคนปกติ ลักษณะจะเป็นแผ่นเนื้อสีขาวหรือสีเหลืองนูนขึ้นมา จะเกิดข้างๆตาขาว ในระยะแรกที่เป็นจะยังไม่ลุกลามมาก จะอยู่เฉพาะบริเวณตาขาว แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้นจะพบว่า จะเกิดการลุกลามเข้าสู่ตาดำ หากไม่รับการรักษาจะมีปัญหาต่อการมองเห็น และอาจจะสูญเสียการมองเห็นในที่สุดได้ แผ่นเนื้อต่อลมนั้นไม่ใช่เนื้องอกและไม่ใช่มะเร็ง เมื่อเป็นแล้วไม่ต้องตกใจรักษาหายได้ เช่นเดียวกับโรคต้อเนื้อ
หมายเหตุ : หากเนื้องอกอยู่เฉพาะในส่วนที่เป็นตาขาวจะเรียกว่า “ต้อลม” แต่หากเนื้องอกจากตาขาวลามเข้าไปในตาดำจะเรียกว่า “ต้อเนื้อ”
สาเหตุการเกิดโรคต้อลม
มีสาเหตุหลักมาจาก พฤติกรรมการใช้ดวงตาของผู้ป่วยเอง และสภาพแวดล้อมรอบตัวของผู้ป่วย ที่ส่งเสริมกันจนทำให้เกิดโรคต้อลม หากไม่ทำการรักษาแต่เนิ่นๆ ก็อาจส่งผลต่อการมองเห็นได้
- ลม การรับลมโดยตรงปะทะเข้าดวงตา ติดต่อกันเป็นเวลานาน หลายๆปี โดยไม่มีสิ่งป้องกัน โดยมากแล้วจะพบในผู้ที่ต้องประกอบอาชีพ กับการเคลื่อนที่เร็ว เช่น พนักงานขับรถขนส่ง วินมอเตอร์ไซด์ เกษตรกร เป็นต้น
- ฝุ่นระออง ทำให้เกิดการระคายเคืองดวงตา โดยเฉพาะฝุ่นจากโรงงานอุตสาหกรรม
- แสงแดด ที่มีรังสียูวี เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดต้อลม เช่นเดียวกับโรคต้อเนื้อ โดยมากผู้ป่วยจะไม่มีการป้องกันดวงตาของตน จากการจ้องมองแสงแดดจ้า สามารถป้องกันได้โดยการสวมแว่นกันแดด หรือแว่นกรองแสง
- ควันต่างๆ ทั้งจากการเผาไหม้ จากโรงงานอุตสาหกรรม การเผาขยะ ควัญจากไฟป่า
อาการของโรคต้อลม
อาการสามารถแบ่งได้ตามความรุนแรงของโรค ในระยะเริ่มแรกจะมีเพียงอาการแสบ ระคายเคือง ปวดเล็กน้อย ในระยะที่รุนแรงจะพบก้อนเนื้อสีเหลืองนูยขึ้นมาบริเวณตาขาว มีน้ำตาไหล แสบตารุนแรง ดังนั้น เมื่อพบอาการเพียงเล็กน้อยอย่านิ่งนอนใจ ควรรีบพบจักษุแพทย์โดยด่วน
- ระยะเริ่มแรกของโรคต้อลม
- การระคายเคืองดวงตา เกิดเพียงเล็กน้อยไม่มาก เป็นๆหายๆ กระพริบตาบ่อยครั้ง
- แสบเป็นบางครั้ง แต่ไม่รุนแรง ยังสามารถทนความเจ็บได้ แต่แสบตาผิดปกติกว่าที่เคยเป็นมา
- ระยะรุนแรงของโรคต้อลม
- ก้อนเนื้อสีเหลืองนูนบริเวณตาขาว มองเห็นได้ชัดเจน
- น้ำตาไหลเมื่อเจอแดด ลม ไม่สามารถควบคุมให้น้ำตาหยุดไหลได้ มีอาการแสบรุนแรง ปวดจนไม่สามารถทนได้
- มีอาการทางจิตร่วมด้วย เนื่องจากผู้ป่วยมักกังวลการเสียบุคลิกภาพ ทำให้เกิดอาการซึมเศร้าได้
- โดยทั่วไปผู้ป่วยที่เป็นต้อลมจะไม่มีอาการผิดปกติอะไรเช่นเดียวกับต้อเนื้อ โดยจะเป็นเพียงก้อนสีเหลืองอ่อนสงบนิ่งที่ขอบของตาดำเท่านั้น แต่บางรายอาจมีเส้นเลือดฝอยมาหล่อเลี้ยงมากผิดปกติ ทำให้เห็นเป็นปื้นเนื้อเยื่อชัดเจนได้ ถ้าเกิดการอักเสบ
- ถ้าถูกลม ถูกฝุ่นมาก ๆ และรุนแรง ประกอบกับร่างกายอ่อนเพลียความต้านทานลดลง ก็อาจทำให้เกิดอาการอักเสบที่ต้อลมนี้ได้ ซึ่งจะทำให้เห็นเป็นก้อนสีเหลืองอ่อนนูนสูงขึ้นอย่างชัดเจน และรอบ ๆ จะมีสีแดงของเส้นเลือดฝอยมาหล่อเลี้ยงมากผิดปกติ ผู้ป่วยจะมีอาการระคายเคืองตา ตาแดง น้ำตาไหล เจ็บเล็กน้อย และอาจมีขี้ตาออกมาบ้างตอนตื่นนอนตอนเช้า
- โรคนี้จะไม่หายขาด เมื่อเป็นแล้วก็เป็นอีกได้ ตราบใดที่ยังมีสาเหตุดังกล่าวมากระตุ้นอยู่
ภาวะแทรกซ้อนของโรคต้อลม
หากปล่อยทิ้งไว้และไม่ได้ป้องกัน ต้อลมจะลุกลามไปที่เนื้อ เข้าชิดตาดำกลายเป็นต้อเนื้อต่อไป แต่ก็ไม่ใช่มะเร็งและจะไม่สามารถเปลี่ยนไปเป็นมะเร็งได้
การรักษาโรคต้อลม
เนื่องจากไม่ได้เป็นโรครุนแรง ไม่ทำให้เสียชีวิต ผู้ป่วยจึงมิต้องตกใจ รีบปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อทำการรักษา ซึ่งขั้นตอนการรักษาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคต้อลมที่เป็น ได้แก่
- การใช้ยารักษา ได้แก่ ยาหยอดตาที่จะช่วยบรรเทาอาการมากกว่าเป็นการรักษาเพื่อประคับประคองอาการ อาจจะเกิดอาการอักเสบขึ้นทำให้มีตาแดงจึงใช้ ยาหยอดตากลุ่มสเตียรอยส์ซึ่งมีผลในการรักษาการอักเสบได้ดี ทั้งนี้ การใช้ยาหยอดตาจะต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของแพทย์เท่านั้นและหยอดในปริมาณที่พอเหมาะ เมื่ออาการหายแล้วให้หยุดการหยอด
- การรักการผ่าตัด เนื่องจากโรคนี้ไม่รุนแรง ทำให้ไม่จำเป็นต้องรับการผ่าตัดเมื่อเป็นเพียงเล็กน้อย เพราะเมื่อทำการผ่าตัดลอกแผ่นต้อออกแล้วจะกลับมาเป็นใหม่ เนื่องจากส่วนมากผู้ป่วยไม่สามารถหลีกเลี่ยงวิถีชีวิตที่จะต้องเจอลมฝุ่นระอองจำมากเช่นเดิมจึงเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดต้อลมมากขึ้นลุกลามได้เร็วขึ้นกว่าเดิมอีก แต่ผู้ป่วยมักเป็นห่วงเรื่องบุคลิคภาพซึ่งแพทย์จะต้องอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจ เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
- การผ่าตัดลอกต้อ ใช้ในรายที่มีความรุนแรงมาก บดบังการมองเห็น จึงจำเป็นต้องทำการลอกแผ่นต้อออก เป็นการผ่าตัดเล็กไม่จำเป็นต้องนอนค้างโรงพยาบาล ใช้ยาชาหยอดตาเสร็จสิ้นภายในครึ่งชั่วโมงผู้ป่วยก็สามารถกลับบ้านได้ แต่มักจะพบว่าผู้ป่วยจะเกิดการกลับมาเป็นโรคต้อลมซ้ำอีก ดังนั้นจึงมีวิธีการตัดต้อออดเลยและแปะด้วยเยื้อบุตาแทนวิธีการนี้สามารถรักษาได้เป็นอย่างดี จะต้องทำการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น การผ่าตัดวิธีนี้ค่อนข้างละเอียดจะต้องทำการผ่าตัดภายใต้กล้องจุลทรรศ์เท่านั้น
การป้องกันโรคต้อลม
เนื่องจากสาเหตุมาจากพฤติกรรมส่วนตัวของผู้ป่วยเอง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและฝึกจนเป็นนิสัย ก็สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคต้อลมได้เป็นอย่างดี
- หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นการเกิดโรค เช่น ลมแรง แสงแดด ควันต่างๆ หรือสวมเครื่องป้องกันทุกครั้งเมื่อจำเป็นต้องเจอสิ่งกระตุ้น
- สวมแว่นกันลม กันแดด เมื่อต้องออกทำงานกลางแจ้ง โดยเฉพาะที่โล่งแจ้ง
- รีบปรึกษาจักษุแพทย์หรือหมอตาเมื่อพบ อาการผิดปกติกับดวงตา ทั้งที่สังเกตุได้จากภายนอกหรือเกิดขึ้นกับการมองเห็นของตนเอง
- ตรวจตาประจำปี เมื่ออายุมากขึ้น 40 ปีขึ้นไปควรมีการตรวจตาประจำปีด้วยเพิ่มเติม จากการตรวจสุขภาพประจำปี
- ระมัดระวังการใส่คอนแทคเลนส์ มีงานวิจัยที่บ่งชี้ว่าผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ เป็นเวลานานจะมีโอกาสเป็นต้อลมมากกว่าคนที่ไม่ใส่ ดังนั้น ผู้ที่ใช้คอนแทคเลนส์ไม่ควรใส่นานจนเกินไปควรถอดแล้วทำความสะอาด นอกจากนั้นควรใช้แบบชนิดอ่อนเพื่อสุขภาพตาที่ดี
ข้อควรรู้เกี่ยวกับโรคต้อลม
- หลีกเลี่ยงการซื้อยาหยอดตาที่มีตัวยาสเตียรอยด์ผสมอยู่ (Steroid eye drops) มาใช้ด้วยตัวเอง เนื่องจากหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้กลายเป็นต้อหินตาบอดได้
โรคต้อลม ( Pinguecula )
อาการ สาเหตุ และการรักษาโรคต้อลม
และการได้รับ สารอาหารสำหรับดวงตา ที่เหมาะสม
จะช่วยฟื้นฟูดวงตาของคุณและคนที่คุณรัก
ให้สายตาได้กลับมามองเห็นได้ชัดเจนดีขึ้น
ด้วยสารอาหารจากธรรมชาติ! ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม "คลิก"
ที่รูปด้านล่างนี้เลยนะคะ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- ต้อกระจก (Cataract) อาการ สาเหตุ และการรักษา
- ต้อหิน (Glaucoma) อาการ สาเหตุ และการรักษา
- ต้อเนื้อ (Pterygium) อาการ สาเหตุ และการรักษา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น